วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2550

[ Fic ] You and Me... [ Dino x Hiba ] Ch 4

ตอนที่ 4 ---- ดีโน่ vs. มุคุโร่ chapter 2 คำพูดที่ส่งถึงความรู้สึก

ดีโน่เผชิญหน้ากับชายที่กำลังลุกขึ้นยืนจากแรงถีบของเขา
“ นายน่ะ โรคุโด มุคุโร สินะ หนีออกจากคุกมาทำแบบนี้น่ะเหรอ “
“ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณนี่ “ มุคุโร่ปาดเลือดที่ไหลออกมาจากปากเล็กน้อย
“ ใช่มันก็ไม่เกี่ยวกับชั้นหรอกนะ แต่ทำไมต้องเป็นเคียวยะ ? “ ดีโน่มองมุคุโร่อย่างเอาเรื่อง
“ เพราะหมอนั่นคือ ฮิบาริ เคียวยะน่ะสิ “ มุคุโรตอบยิ้มๆ
“ไม่เห็นเข้าใจ แต่ที่แน่ๆ ถ้าเคียวยะไม่เต็มใจชั้นก็ไม่ยกโทษให้นายหรอก “ ดีโน่หยิบแส้ประจำตัวเขาขึ้นมา
“รู้ได้ไงครับว่าไม่ยินยอมน่ะ ออกจะมีความสุขแท้ๆ “ มุคุโร่หยิบอาวุธของตนออกมาบ้าง
“ ถ้าเขายินยอมนะ ไม่ร้องเรียกชั้นแบบนั้น หรอก “ ว่าแล้วดีโน่ก็พุ่งตัวเข้าจู่โจมมุคุโร่ทันที แส้ของดีโน่ถูกรับไว้ด้วยหอก 3 ง่าม ของมุคุโร่ ( ขอเรียกแบบนี้ละกันไม่รุจะเรียกอารัย - คนแต่ง ) อาวุธของทั้งสองพันกันอยู่ในระยะประชิด มุคุโร่จึงใช้ดวงตาภพที่ 1 กับดีโน่ ดีโน่รู้เคล็ดลับนี้จากรีบอร์นมาแล้ว เลยไม่ติดกับง่ายๆ ดีโน่ไม่สนใจสิ่งต่างๆรอบตัว สนใจแต่พุ่งเขาโจมตีมุคุโร่อย่างเดียว
“ เคนกับจิคุสะทำอะไรอยู่นะ ปล่อยให้คุณเข้ามาได้แบบนี้น่ะ “
“ เจ้าสองตัวนั่นนอนแอ้งแม้งอยู่หน้าตึกนี่ยังไงล่ะ “ ดีโน่ตอบพลางเหวี่ยงแส้ไปรัด อาวุธและตัวของมุคุโร่ให้ติดกัน มุคุโร่พยายามที่จะดิ้น แต่เหมือนยิ่งดิ้นแส้นี่จะยิ่งรัดเขา มุคุโร่หันมายิ้มให้ดีโน่ครั้งหนึ่งแล้ว ล้มลง
“ ???? “ ดีโน่งงกับคนตรงหน้าจึงก้มลงดูร่างที่นอนหงายผึ่งแบบนั้น แต่ยังไม่ปล่อนแส้เพราะไม่ไว้ใจว่าคนตรงหน้าจะลุกขึ้นมาทำร้ายเขาอีกรึเปล่า เมื่อดีโน่ตรวจสอบก็พบว่า มุคุโร่ไม่ได้หายใจและหัวใจหยุดเต้นแล้ว
ทำให้ดีโน่ฉงนหนักขึ้น สักพัก เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นพร้อมร่างสองร่าง คนหนึ่งใส่แว่นและหมวกไหมพรมสีขาว อีกคนหนึ่งมีรอยแผลเป็นยาวตรงจมูก ทั้งคู่ใส่ชุดนักเรียนโรงเรียนโกคุโย
“ พวกนาย สลบเมือดไปแล้วนี่ “ ดีโน่มองร่างที่เข้ามา แต่รังสีอำมหิตนี่มันอะไรกันนะ
“ หึหึหึหึ....พบกันอีกแล้วนะครับ “ เมื่อร่างทั้งสองเงยหน้าขึ้นก็พบว่าตาข้างขวาของทั้งคู่เป็นสีแดง
“ โรคุโด มุคุโร่ “
“ แหม ทำหน้าตลกจังนะครับ “ ร่างทั้งสองยิ้มแสยะให้ดีโน่
“ ผมน่ะสามารถสิงร่างคนได้ด้วย คุณไม่รู้หรอกเหรอ” มุคุโร่ที่สิงร่างจิคุสะพูดขึ้น
“ ชั้นไม่สนหรอกเฟ้ย “ ว่าแล้วดีโน่ก็เอาแส้ตวัดใส่ร่างของจิคุสะ ร่างนั้นหลบได้และล้มลงเหมือนเมื่อครู่
“ อ่ะ “ ดีโน่ชะงักงัน ตอนนี้เหลือเขาเพียงคนเดียวที่ยืนอยู่ในห้อง เคนที่โดนสิงก็ล้มลงไปด้วย ตอนนี้ในหัวสมองของดีโน่มีเครื่องหมาย???เต็มไปหมด พลันหันไปมองฮิบาริก็พบว่าฮิบาริยืนอยู่
“ เคียว....ยะ “ ดีโน่ลองเชิงเรียกเพราะไม่รู้ว่าคนตรงหน้าใช่เคียวยะของเขารึป่าว
“ ดีโน่....นี่ชั้น....” ฮิบาริยืนใช้แขนกุมหัว เสื้อผ้าของเขานั้นยังไม่เข้าที่ดี ดีโน่ที่เห็นก็ลุกขึ้นไปจัดเสื้อผ้าฮิบาริให้เข้าที่ แต่ก็มีกระบองทอนฟาสวนหน้าท้องเขาไป

“ อุ๊บ!!! นี่นาย..... “ ดีโน่เอามือกุมท้อง รู้แล้วว่าตอนนี้ฮิบาริของเขานั้นโดนสิง
“ ชั้นทำอะไรลงไปเนี่ย “ มุคุโร่ในร่างฮิบาริมองดีโน่ที่นั่งกุมท้องอยู่มุมห้อง
“ ออกมาจากร่างเคียวยะนะ !!! “
“ ร่างนี้แข็งแกร่งกว่าเจ้าสองคนนั่นเยอะเลย “ มุคุโร่ในร่างฮิบาริชูกระบองทอนฟาขึ้นมา แล้วพุ่งโจมตีดีโน่อีกครั้ง คราวนี้ดีโน่ได้แต่ตั้งรับและหลบ เขาเองไม่กล้าทำร้ายร่างนี้หรอก
“ มัวแต่หลบแบบนี้ก็ไม่สนุกสิครับ.....อุ๊บ!!!! “ มุคุโร่กำลังเหวี่ยงทอนฟาเข้าที่หน้าของดีโน่แต่ก็ต้องหยุดชะงัก เพราะเกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรง ทำให้ต้องทิ้งทอนฟาไปนั่งกุมหัวอยู่ที่พื้น ดีโน่ได้แต่มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างงุนงง และทำอะไรไม่ถูก
“ ออกไปจากร่างของช๊านนนนน “ เสียงของฮิบาริดังขึ้นมา หลังจากนั้นก็มีเสียงคล้ายคนทะเลาะกัน( แต่เป็นเสียงฮิบาริ ) ดังขึ้นมาเป็นระยะๆ จนร่างของฮิบาริล้มลงอีกรอบ พร้อมกับประตูห้องเปิดขึ้นอีกครั้ง พร้อมชาย 3 คนร่างใหญ่ มีผ้าพันหน้าทำให้ไม่สามารถทราบได้ว่าใคร ใส่เสื้อคลุมสีดำสนิท
“ เจอตัวแล้ว ขอรับตัวกลับคืน “ ชายร่างใหญ่คนหนึ่งพูดพร้อมเหวี่ยงโซ่คล้องคอ มาที่ร่างของมุคุโร่ จิคุสะ และเคนที่สลบอยู่ และลากตัวทั้งสามกลับไป ดีโน่มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างตามไม่ทัน แต่พอตั้งสติได้ก็จัดแจงพาฮิบาริกลับบ้านของเขา


ฮิบาริลืมตาขึ้นมาช้า มองนาฬิกาที่หัวเตียง นาฬิกาบอกเวลา 7 โมงเช้า นี่มันเกิดขึ้นอะไรกับตัวเขากันแน่ ฮิบาริเตรียมยันตัวลุกขึ้น แต่มือกลับไปคว้าโดนอะไรบางอย่างที่นุ่มนิ่มข้างๆตัวเขาเข้า เมื่อเลิกผ้าห่มดูก็พบว่าดีโน่นอนขดอยู่ ดีโน่ลืมตาขึ้นมาช้าๆ ยิ้มให้ฮิบาริ แล้วคว้าคอฮิบาริลงมานอนกอดอีกครั้ง
“ อรุณสวัสดิ์ เคียวยะ ดีใจจังเห็นนายตื่นขึ้นมาแบบนี้ ชั้นละใจไม่ดีเลยเห็นนายหลับไปตั้งสองวัน “ ดีโน่ซุกจมูกลงบนผมของเคียวยะ ถึงจะยังไม่ได้สระผม แต่กลิ่นแชมพูอ่อนๆยังคงเหลืออยู่
-- 2 วันเชียวเหรอ นี่เขาหลับมานานขนาดนี้เลยเหรอ มิน่าล่ะร่างกายไม่มีแรงขยับเลย ----ฮิบาริคิด ฮิบาริ ไม่ได้ขัดขืนอะไรกับอ้อมแขนนั้นกลับคิดว่าแขนที่กอดเขาอยู่นั้นอบอุ่นกว่าเมื่อก่อนเยอะ ฮิบาริหลับตาลงคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะลืมตาขึ้นมาอีกรอบ แต่ไม่ได้มองดีโน่
“ ดีโน่ ขอบคุณนะ “
“ เรื่องอะไรเหรอ “ ดีโน่มองคนในอ้อมกอด
“ ทุกเรื่องเลย ทั้งเรื่องที่นายไปช่วยชั้น นั่งกินข้าวบนดาดฟ้า คอยอยู่กับชั้นตลอดเวลาแล้วก็อยู่เป็นเพื่อนชั้นมาจนถึงป่านนี้ “ ฮิบาริใช้มือจับแขนที่กอดคอเขาอยู่ เบาๆ แล้วหลับตาลง ดีโน่ผุดยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“ นายคิดว่าเพราะอะไรชั้นถึงทำให้นายขนาดนี้นี้ล่ะ “ ดีโน่เอ่ยถามคนตัวเล็กเบาๆ
“ เพราะนายเป็นครูฝึกของชั้น ใช่มั๊ย ? “ ฮิบาริหลับตา เขาพูดคำนี้ออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบในอก ทำไมเป็นแบบนี้นะ ดีโน่ยิ้มกริ่ม ยื่นหน้าลงมากระซิบ ที่หูของฮิบาริ
“ ใช่...ส่วนหนึ่งนะ “ ฮิบาริลืมตามองดีโน่ ด้วยความสงสัย ดีโน่ยิ้มให้ฮิบาริอีกครั้ง
“ ชั้นรักนายเคียวยะ “ ฮิบาริหลบตาดีโน่ หน้าแดงซ่าน เขาทั้งอายอย่างบอกไม่ถูก แถมในใจมันยังเต้นไม่เป็นจังหวะอีก เขาโดนผู้ชายบอกรัก ?? ฮิบาริเงียบไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่ก้มหน้างุดๆกับแขนดีโน่ ทำเอาดีโน่ใจไม่ดี นอกจากจะไม่ตอบแล้วยังเงียบอีกต่างหาก
“ เคียวยะ ?..... “
“ หุบปาก!!!! “
“ ............”
“...................”
“ ชั้นก็......ชอบนาย “ ฮิบาริหันหลังให้ดีโน่แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้ แต่ก็พอให้ดีโน่จับใจความได้ ดีโน่ยิ้มกริ่มอยากแกล้งคนตัวเล็กอีก
“ เอ๋....ไม่ได้ยินเลย พูดใหม่สิ “ ดีโน่กอดเอวฮิบาริจากด้านหลัง ทำให้ฮิบาริหน้าแดงขึ้นไปอีก
“ หืม?.....นายพูดในลำคอชั้นจะได้ยินไม๊เนี่ย ? “ ดีโน่ทวนคำถาม
“ ชั้นก็ชอบนายไงล่ะ “ ฮิบาริพูดเบาๆ ตอนนี้หน้าของเขาแดงเป็นลูกมะเขือเทศแล้ว
“ อารัยน๊า.......” ดีโน่แกล้งคนตัวเล็กอีก แต่ดูเหมือนว่าฮิบาริจะรำคาญแล้วก็อายด้วย เลยผละจากอ้อมแขนลุกจากเตียง แต่ก็โดนวงแขนแกร่งโอบไว้ ตอนนี้ฮิบารินั่งอยู่บนตักของดีโน่
“ ล้อเล่นน่า ได้ยินตั้งแต่ทีแรกแล้ว “ ดีโน่กระซิบที่ข้างหูของฮิบาริ และไล้เลียใบหูนั้นเบาๆ ทำเอาฮิบาริขนลุกชันไปทั้งตัว
“ หยุดนะ จะทำอะไรน่ะ “ ฮิบาริดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของดีโน่ ดีโน่จึงจับฮิบาริหันมาเผชิญหน้ากับเขา
“ ทำอย่างที่คนรักเขาทำกันไง “ พูดจบดีโน่ก็กดจูบลงบนใบหน้าของอีกฝ่าย แต่จูบที่ฮิบาริได้รับมานั้นมันอ่อนนุ่มและอบอุ่นกว่าตอนที่เขาได้รับมาจากมุคุโร่มากมายนัก ฮิบาริขัดขืนดีโน่ในตอนแรก แต่สักพักก็ยอมรับจูบนั้นแต่โดยดี ทั้งสองประกบปากกัน แล้วดูดุนลิ้นควานหาความหวานที่ไม่น่าจะมีอยู่ ลิ้นอุ่นทั้งสองเกี่ยวกวัดรัดกันอยู่เนิ่นนาน ดีโน่ก็ผละปากออก แล้วกระซิบที่หูฮิบาริ
“ ชั้นยังไม่ทำอะไรตอนนายยังไม่หายดีหรอกน่า……แต่ว่าต่อจากนี้ไม่แน่ ”ฮิบาริหน้าแดงกระทุ้งศอกเขาเต็มหน้าขาของดีโน่ ดีโน่ปล่อยอ้อมแขนจากฮิบาริเปลี่ยนไปกุมหน้าขาเขาแทน
“ เจ็บน๊า …..ทำอะไรของนายน่ะ ! “
“ ไอ้โรคจิต!!!! “ พูดจบพี่ท่านฮิบาริก็เดินก้อหน้างุดๆดุ่มๆเข้าห้องน้ำไป
“ ฮะๆๆๆ....ชั้นไม่ได้พูดเล่นน๊า....น่ารักจริงๆนายเนี่ย “ ดีโน่พึมพำกับตัวเองเบาๆ


...........................................-------------------------------------

To----Be----Con………

[ Fic ] You and Me... [ Dino x Hiba ] Ch 3

ตอนที่ 3 ------- ดีโน่ vs. มุคุโร่ chapter 1

ตกดึกคืนหนึ่งใจกลางเมืองนามิโมริ ชายหนุ่มปริศนา 2 คน กำลังอัดผู้เคราะห์ร้ายรายหนึ่ง ( มาถึงตรงนี้คงรู้นะว่าใคร ) หลังจากที่ผู้เคราะห์ร้ายนั้น แพ้หมดท่า บุคคลปริศนาทั้งสองจึงทำอะไรบางอย่างกับร่างที่ไม่มีแรงนั้น ( อย่าคิดลึกน่อ )

“ อ๊ากกกกกกกกกก!!! “ เสียงชายผู้เคราะห์ร้ายร้องโหยหวนยามค่ำคืนที่เงียบสงัด แล้วเงาทั้งปริศนาสองก็หายไป

.............................................................................

เช้าวันรุ่งขึ้น โรงเรียนนามิโมริ

ฮิบาริเดินงุ่นง่านอยู่หน้าโรงเรียนด้วยความกระวนกระวายใจ เด็กโรงเรียนนามิโดนจัดการวันละ 3 – 4 ราย โดยที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้เนื่องจากไม่รู้ตัวคนร้าย สักพักเขาก็เห็นชายร่างเล็กผมสีน้ำตาลบ่นพึมพำ ๆ เตรียมจะเข้าโรงเรียน
“ นักเลงตีกันอย่างที่ว่ารึไงนะ “ ร่างเล็กที่เดินมาพูดโดยไม่มองทางข้างหน้า จนมาเจอกับฮิบาริ
“ ไม่ใช่หรอก นี่เป็นการกลั่นแกล้งกันฝ่ายเดียวมากกว่า และมันก็ต้องย่อยยับไป “ ฮิบาริพูดพร้อมยกทอนฟาขึ้นมา
--- คุณฮิบารินี่โหดเสมอต้นเสมอปลายดีจัง--- สึนะคิดในใจ

“ กรี๊ด!!! “ เสียงนักเรียนหญิงคนหนึ่งดัง ขึ้นมา เมื่อฮิบาริหันไปก็พบว่ามีชายคนหนี่งกำลังวิ่งไล่นักเรียนหญิงโรงเรียนเขา ฮิบาริจึงเดินเข้าไปเอาพลองฟาดคางชายคนนั้นทันที ชายคนนั้นเซล้มไป คนๆนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน อาจารย์พยาบาลประจำโรงเรียนเขานั่นเอง ฮิบาริรู้สึกเหมือนคันๆที่คอแต่ไม่ได้สนใจอะไร แล้วเดินออกมาจากตรงนั้น พอดีกับเสียงโทรศัพท์ของเขาดัง ขึ้นมา

“ ฮัลโหล “ ฮิบาริคุยโทรศัพท์อยู่พักหนึ่งแล้ววางหูไป หันกลับมาหาสึนะ
“ เอ้อ..งั้นผมขอตัว...” ยังไม่ทันที่สึนะจะพูดจบ ฮิบาริก็พูดแทรกขึ้น
“ คนรู้จักของนายสินะ ....ซาซางาวะ เรียวเฮ เสร็จไปอีกรายแล้วล่ะ “
“ หา!!!!!!!!!!! “
“ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลxxxx “ ฮิบาริพูดจบสึนะก็วิ่งไปทันทีเขามองตามไปสักพักก็หันกลับมามุ่งหน้าขึ้นห้องไปที่โตะทำงาน เมื่อถึงห้องรับกรรมการรักษาระเบียบ ฮิบาริก็นั่งลงที่โต๊ะของตัวเอง นั่งครุ่นคิดเหตุการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นที่โรงเรียน ทำไมต้องเป็นที่นามิโมริด้วย----ฮิบาริคิด----- แล้วประตูห้องกรรมการก็ถูกเปิดออกพร้อมกับชายที่เขาไม่อยากเจอที่สุดตอนนี้

“ อย่ามากวนชั้นตอนนี้นะ “ ฮิบาริรีบพูดชิงตัดบทก่อน
“ เป็นอะไรล่ะ เคียวยะ หรือว่าเครียดเรื่อง เด็กที่มาโจมตีเด็กนามิฯ “ ดีโน่รู้เชิงฮิบาริ พูดอย่างยิ้มๆ ฮิบาริเลิกคิ้วมองอย่างรำคาญ
“ รู้แล้วก็อย่ามากวน ชั้นตอนนี้ ออกไปซะ “ ฮิบาริพูดตัดเพ้อพลางหมุนเก้าอี้กลับไปอีกทาง ดีโน่ยิ้มกริ่มลากเก้าอี้มาอยู่หน้าโต๊ะทำงานแล้วเอาข้อศอกท้าวคางมองฮิบาริ
“ ชั้นรู้ตัวคนร้ายนะ จะบอกให้เอาไม๊ล่ะ ? “ คำพูดคำเดียวของดีโน่ทำให้ฮิบาริหันกลับมามองได้
“ นายรู้เหรอ.......”
“ ใช่...จะบอกให้ก็ได้นะ..แต่มีข้อแลกเปลี่ยน “
“ อะไร “ ฮิบาริเหล่มองงดีโน่เล็กน้อย
“ จูบชั้นทีหนึ่ง “ ดีโน่พูดแล้วทำปากจู๋ยิ่นหน้าไปหาฮิบาริ
“ ไปตายซะ!!! ชั้นไปหาเองก็ได้ “ พูดจบฮิบาริก็เดินฉับๆออกจากห้องไป
“ ฮะฮะฮะ.....ขี้อายจริงจริ๊ง “ ดีโน่พูดคนเดียวในห้อง
“ ให้ตายยังไงนายก็หาไม่เจอหรอกเคียวยะ ระดับหมอนั่นน่ะ ชั้นเองกว่าจะเจอก็แทบตายแน่ะ “


สวนสาธารณะ นามิโมริ
ฮิบารินั่งกุมขมับอยู่ที่ม้านั่งในสวน เกือบครึ่งวันแล้วเขายังหาตัวคนร้ายไม่เจอ แล้วเขาจะทำไงดีล่ะ เบาะแสก็มีแต่ เด็กนามิฯโดนทำร้าย ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี ฮิบารินั่งแหงนหน้ามองฟ้า เห็นนกบินผ่านไปผ่านมา ก็รู้อิจฉาเล็กน้อย ที่ไม่ต้องรับรู้ความรู้สึกอะไร เขานั่งมองท้องฟ้าสักพัก ก็มีใบหน้าชายคนหนึ่งแทรกขึ้นมา ฮิบาริหลับตาลงแล้ว หันคอมาให้อยู่สภาพปกติ

ดีโน่เหรอ หมอนั่นดีทุกอย่างยกเว้นมันโรคจิต จะขอข้อมูลต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนล่ะ แต่ถ้าเราไม่ได้ข้อมูลตอนนี้ เด็กโรงเรียนนามิจะเป็นยังไง --- ฮิบาริคิด--- แล้วสักพักก็มีมือปริศนามาปิดตาฮิบาริ

“ บอกแล้วไงว่าอย่ามายุ่กับชั้น “ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามือนี่ของใคร จะมีใครล่ะที่กล้าเล่นกับเขาแบบนี้
“ ชั้นเห็นนายนั่งเครียดๆน่ะเลยอยากมานั่งเป็นเพื่อน เผื่อช่วยอะไรนายได้บ้าง “ ดีโน่ลงมานั่งข้างฮิบาริ
“ ไม่ยาก นายก็แค่บอกชั้นมา ว่าเจ้าหัวโจกนั่งมันอยู่ที่ไหน “
“ ชั้นบอกแล้วไงก็จะบอกเรื่องนั้นมันมีข้อแลกเปลี่ยน “ ดีโน่ยิ้มเจ้าเล่ห์
“ เฮ้อ....งั้นก็ไม่ต้องล่ะ “ ฮิบาริทำท่าเครียดหนักกว่าเดิม ดีโน่เห็นจึงต้องหุบยิ้มลง
“ เจ้าหมอนั่นอยู่ที่ xxxxx เก่าน่ะ รังของหมอนั่นอยู่ที่นั่น นายรีบไปเหอะ “ ฮิบาริหันมามองดีโน่อยู่ครู่หนึ่ง
“ ถึงนายจะบอกชั้นชั้นก็ไม่ให้หรอกนะ ไอ้ของที่นายว่าน่ะ “
“ อืม...ไม่ต้องหรอก ชั้นเห็นนายเป็นแบบนี้มันทรมานมากกว่า “ ดีโน่พูดพร้อมกับมองหน้าฮิบาริ
“ รีบไปเหอะ “
ฮิบารินิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วรีบวิ่งไปที่ๆดีโน่บอก ทิ้งให้ดีโน่มองตามจนลับสายตาไป
“ โชคดีนะ ลูกศิษย์ ...ไม่ใช่สิ...คนรัก ของชั้น “ ดีโน่พูดจบก็เอนหลัง แล้วมองท้องฟ้าแบบที่ฮิบาริทำเมื่อครู่
“ ชั้นคิดเอาเองฝ่ายเดียวสินะ “ แล้วดีโน่ก็หลับตาลง

.................ตึกเก่า xxxxx
ฮิบาริ ฝ่าด่านลูกน้องหลายคน ของเจ้าหัวโจกนั่นซึ่งดูเหมือนจะเป็นเด็กโรงเรียนโกคุโยทั้งหมด เขาฝ่าด่านมาเรื่อยๆจนถึงห้องชั้นบนสุด ก็ต้องพบกับ ชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟาเก่าๆ แต่ยังสภาพดี ในมุมที่แสงส่งไม่ถึง แต่ก็พอจะส่องให้รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นผู้ชายผมสีน้ำเงิน นัยย์ตาสองสี ข้างหนึ่งสีแดง ข้างหนึ่งสีน้ำเงินเข้ม
“ นายเป็นหัวโจกเรื่องนี้สินะ “ ฮิบาริเอ่ยถามคนตรงหน้า
“ ก็คงอย่างนั้นล่ะมั้งครับ พวกเราจะเป็นบัญญัติใหม่ของเมืองพวกคุณเอง “ บุคคลในเงามืดตอบ
“ ของแบบนั้นไม่จำเป็นต้องมีถึงสองหรอก “ ฮิบาริสวนกลับ
“ แหม คิดเหมือนกันเลย เพราะฉะนั้น คุณก็หลบให้ผมซะเถอะ “
“ พล่ามอะไรของนาย ที่นี่ชั้นจะเป็นกฎเอง “ ฮิบาริเหล่มองคนตรงหน้า
“ อยากจะตายท่านั้นใช่มั๊ย “
“ ที่ผมไม่ลุกก็เพราะว่าไม่จำเป็นต้องลุกต่างหาก “บุคคลปริศนายิ้มกริ่ม แล้วจู่ๆฮิบาริก็ยืนไม่อยู่ เวียนหัวจนแทบพยุงตัวไม่ไหว ได้แต่พยุงตัวโซเซแบบนั้น
“ อ้าวๆ...เป็นอะไรล่ะครับ ยินดีๆสิ ผมอยู่ทางนี้นะ “
“ หุบปาก!!! “
“ ไม่เสียแรงที่สั่งมาจากเมืองนอก แพ้เจ้านี่จริงๆซะด้วยนะ ซากุระน่ะ คุณฮิบาริ เคียวยะ “ชายปริศนา หยิบเครื่องมืออะไรบางอย่างออกมา ให้ฮิบาริดู เขามองไปรอบๆ มีซากุระอยู่รายล้อมตัวเขาเต็มไปหมด ฮิบาริทรุดลงตรงชายคนข้างหน้า ชายคนนั้นก็นั่งลงหน้าเขา เชยคางฮิบาริขึ้น
“ ผมก่อเรื่องนี้เพื่อเรียกคุณมารู้ไหม ถ้าผมไม่ใช้วิธีนี้ ผมคงไม่ได้พบคุณแน่ “ พูดจบแล้วยื่นหน้าลงประกบปากกับเขา ฮิบาริเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ แต่เขาไม่มีแรงที่จะดิ้นให้หลุดออกจากอ้อมกอดของชายตรงหน้าได้ ชายผมสีน้ำเงินสอดสิ้นอุ่นเข้าไปพัวพันกับลิ้นของเขา ฮิบาริหมดแรงที่จะดิ้นเพราะเหมือนเขายิ่งดิ้น เหมือนจะยิ่งมัดตัวเขากับชายคนนั้น ฮิบาริจึงปล่อยให้เลยตามเลย รอเวลาที่เขาจะจัดการกับคนตรงหน้า ได้ ชายผมน้ำเงินเริ่มคลายอ้อมกอดลง แต่ยังไม่ผละจูบออกมา กดฮิบาริลงกับพื้น ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นของฮิบาริ ไล้เลียยอดอก ฮิบาริกัดฟันด้วยความเสียวซ่าน เหม่อมองเพดาน ซากุระยังอยู่ถ้ามีสิ่งนี้อยู่เขาก็ทำอะไรคนตรงหน้าไม่ได้แน่
“ นายเป็นใคร “ ฮิบาริเอ่ยถามชายที่กำลังยุ่มย่ามกับร่างของเขา
“ ผมชื่อ โรคุโด มุคุโร “
“ ทำแบบนี้เพื่ออะไร “
“ ผมไม่จำเป็นต้องบอกคุณหรอก “
ฮิบาริหลับตาลง พร้อมกับซิปกางเกงของเขาถูกรูดลงด้วยปากของอีกฝ่าย น้ำตาใสหยดลงช้าๆจากตาของคนที่โดนกดอยู่ ฮิบาริร้องไห้ เขาไม่เคยรู้สึกอ่อนแอแบนี้มาก่อน ไม่นึกว่าจะตกอยู่ในสภาพแบบนี้ เขาจะทำไงดี แล้วสมองพลันนึกถึงคนๆหนึ่งขึ้นมา

“ ดีโน่ “ ฮิบาริเอ่ยออกมาเบาอย่างลืมตัว ทำไมเวลานี้กลับนึกถึงหมอนี่นะ อยากให้มาช่วยสินะ ทำไมเวลานี้ถึงไม่ยอมโผล่มา มุคุโร่ที่ได้ยินเสียงคนใต้อ้อมกอดของเขาพูดชื่อคนๆหนึ่งที่ไม่ใช่เขาทำให้ฉุนอย่างบอกไม่ถูก
มุคุโร่ ถอดกางเกงสแลกสีดำของฮิบาริออกไปเตรียมรุก คนตรงหน้า
“ อย่า..พอได้แล้ว “ เสียงฮิบาริสะอึกสะอื้นภายใต้ร่างของเขา แต่มุคุโร่ไม่ฟังขึ้นไปประกบปากกับฮิบาริอีกรอบเพื่อจะให้สงบปากสงบคำ มือก็ไม่อยู่สุข เตรียมถอดกางเกงในของฮิบาริ
“ ไม่ !!!! ดีโน่!!!! “

พลั่ก!!!!

มุคุโร่ลอยกระเด็นติดฝาผนัง ด้วยแรงกระทำของคนๆหนึ่ง ชายที่ฮิบาริไม่อยากพบมากที่สุดเวลาปกติแต่อยากเจอมากที่สุดในเวลาแบบนี้ ฮิบาริมองคนที่ช่วย อย่างดีใจ แต่เขาเองนั้นก็ไม่มีแรงเหลือที่จะพูดอะไรกับใครแล้ว ซากุระทำร้ายเขามากเกินไป ทำไมนะ ทำไมจู่ๆ ถึงมาแพ้ซากุระได้แบบนี้ แล้วสติสัมปชัญญะของฮิบาริก็ดับวูบลง …………………….


ดีโน่เผชิญหน้ากับชายที่กำลังลุกขึ้นยืนจากแรงถีบของเขา
“ นายน่ะ โรคุโด มุคุโร สินะ หนีออกจากคุกมาทำแบบนี้น่ะเหรอ “
“ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณนี่ “ มุคุโร่ปาดเลือดที่ไหลออกมาจากปากเล็กน้อย
“ ใช่มันก็ไม่เกี่ยวกับชั้นหรอกนะ แต่ทำไมต้องเป็นเคียวยะ ? “ ดีโน่มองมุคุโร่อย่างเอาเรื่อง
“ เพราะหมอนั่นคือ ฮิบาริ เคียวยะน่ะสิ “ มุคุโรตอบยิ้มๆ
“ไม่เห็นเข้าใจ แต่ที่แน่ๆ ถ้าเคียวยะไม่เต็มใจชั้นก็ไม่ยกโทษให้นายหรอก “ ดีโน่หยิบแส้ประจำตัวเขาขึ้นมา
“รู้ได้ไงครับว่าไม่ยินยอมน่ะ ออกจะมีความสุขแท้ๆ “ มุคุโร่หยิบอาวุธของตนออกมาบ้าง
“ ถ้าเขายินยอมนะ ไม่ร้องเรียกชั้นแบบนั้น หรอก “ ว่าแล้วดีโน่ก็พุ่งตัวเข้าจู่โจมมุคุโร่ทันที แส้ของดีโน่ถูกรับไว้ด้วยหอก 3 ง่าม ของมุคุโร่ ( ขอเรียกแบบนี้ละกันไม่รุจะเรียกอารัย - คนแต่ง ) อาวุธของทั้งสองพันกันอยู่ในระยะประชิด มุคุโร่จึงใช้ดวงตาภพที่ 1 กับดีโน่

[ Fic ] You and Me... [ Dino x Hiba ] Ch 2

ตอนที่ 2 : Belive me--------------------------------------
12.10 น. ณ ดาดฟ้าโรงเรียนนามิโมริ ปัง!!!
" เคียวยะ จ๋าาา " ชายหนุ่มร่างสูงผมทอง เปิดประตูดาดฟ้า เข้ามา พร้อมเรียกคนที่นั่งอยู่ริมรั้วดาดฟ้า" อะไร " คนที่ถูกเรียก ตอบอย่างเย็นชา" คือ...ชั้นให้โรมาริโอ้ ซื้อซูชิ ร้านของยามาโมโตะมา มากินด้วยกันสิ " ดีโน่พูดพร้อมยกกล่องซูชิ 3ชั้นให้ดู" กินไปเหอะ...ชั้นไม่ชอบซูชิ " พูดจบฮิบาริก็ก้มหน้าก้มตากินขนมปังยากิโซบะ อาหารเที่ยวของตัวเองไป ดีโน่เห็นดังนั้นก็คว้าขนมปังจากมือฮิบาริอย่างรวดเร็วด้วยความที่เขาฝึกหมอนี่ได้อาทิตย์หนึ่งแล้ว เขากระโดดหนีจากคนตรงหน้าเพราะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฮิบาริยกทอนฟาขึ้นมาฟาดวืด
" กินแบบนี้จะมีประโยชน์อะไร นายกินซูชิไป ชั้นจะกินไอ้นี่เอง " ดีโน่มองขนมปังยากิโซบะที่แย่งมา" ชั้นบอกว่าชั้นไม่..."" อย่ามาโกหกน่าเคียวยะ เมื่อวานชั้นยังเห็นนายไปนั่งกินที่ร้านของยามาโมโตะเลย " ดีโน่เถียงกลับ ฮิบาริจึงถามกลับ" แล้วทำไมนายไม่กินเอง " " ชั้น....ใช้ตะเกียบไม่เป็น " ดีโน่ตอบอย่างอายๆ หลบสายตาของฮิบาริไป" หา!!?? " ฮิบาริทำหน้างง ( มาอยู่ญี่ปุ่นแต่ใช้ตะเกียบไม่เป็น ? มันจะรอดเรอะ - ฮิบาริคิด )" ช่างนายสิ " แล้วฮิบาริก็หยิบซูชิที่ดีโน่ซื้อมาให้กินแต่โดยดี " หว่า...นึกว่าจะมีน้ำใจสอนให้ซะหน่อย " ดีโน่ทำหน้าเสียดาย แล้วเดินไปนั่งข้างๆฮิบาริ แล้วยกขนมปังที่แย่งมาเตรียมจะกิน ฮิบาเหลือบมองเล็กน้อย" นายจะกินมันจริงๆเหรอ " " ทำไมล่ะ มันก็ไม่ได้เสียหายนี่ "" นายไม่รังเกียจที่จะกินของที่คนอื่นกินไปแล้วรึไง " ฮิบาริมองซูชิที่อยู่ในมือตน แต่ไม่ได้หยิบมากิน " ไม่หรอก ชั้นไม่ถือ " พูดแล้วยัดขนมปังเข้าปาก ฮิบาริมองการกระทำของคนข้างๆ แล้วหันไปมองซูชิอีกที" กินแค่นั้นจะพอเหรอ นายใช้พลังงานมากกว่าชั้นอีกนะ ยังไงก็...กินด้วยกันก็ได้ " ฮิบาริพยายามกัดฟันพูดออกมา ดีโม่มองแล้วยิ้มน้อยๆ" ก็..ชั้นบอกแล้วไงว่า ชั้นใช้ตะเกียบไม่เป็น " ดีโน่เอาคางไปเกยไหล่ของฮิบาริ เส้นเลือดที่หัวของฮิบาริกระตุก " อยากโดนถีบอีกรอบรึไง " ฮิบาริกัดฟันพูด เขาถีบดีโน่ออกไปแล้วครั้งหนึ่ง ตอนที่ดีโน่ไปส่งเขาที่บ้านแล้วขึ้นมานอนกอด เลยโดนถีบตกเตียงไปครั้งหนึ่ง" อ่าๆ..ไม่ล่ะๆ..เอางี้ดีกว่า นายสอนใช้ตะเกียบได้ไหม๊ ? " ดีโน่รีบเอาคางออกจากตัวฮิบาริ ฮิบาริที่กำลังคีบซูชิเข้าปาก ก็ชะงัก" อืม " ว่าแล้วฮิบาริก็ยัดตะเกียบใส่มือของดีโน่ แล้วก็จับมือดีโน่สอนคีบตะเกียบ ตอนแรกดีโน่ก็ตั้งใจฟังเป็นอย่างดี แต่ไปๆมาๆ กลับ สนใจคนสอนมากกว่า ดีโน่มองฮิบาริอย่างไม่ว่าตา ทุกท่าทางทุกการกระทำ บันทึกไว้ในสายตาของดีโน่หมด" เข้าใจรึยัง "ฮิบาริลงไปนั่งอยู่ข้างหน้าดีโน่ ดีโน่เลยได้แต่ทำหน้าเอ๋อ..." อ..อืม " " ไหนลองคีบสิ " ฮิบาริจ้องเขม็งราวกับว่าถ้าเขาคีบไม่ได้ มีหวังโดนเชือดตายคาดาดฟ้าแน่ ดีโน่ลองใช้ตะเกียบคีบซูชิขึ้นมา แต่แล้ว
ฟุ่บ!!
ซูชิหลุดลงมาจากตะเกียบของดีโน่ ทั้งสองเลยนั่งเงียบ แล้วฮิบาริก็ลุกขึ้นไปแย่งกล่องซูชิจากมือดีโน่ แล้วนั่งลงข้างๆ ปรายตามองดีโน่เล็กน้อย
" อดตายไปซะ " ฮิบาริพูดอย่างเย็นชาแล้วหันกลับไปกินต่อ " ใจร๊ายยยย " ดีโน่ตะโกนในใจ --โผล่งออกมาก็ตายสถานเดียวสิ
บรรยากาศเงียบลง ฮิบารินั่งกินอย่างไม่สนใจคนข้างๆ ดีโน่ก็มองฮิบาริน้ำลายยืด ( อยากกินซูชิหรือคนกินซูชิล่ะ ) ฮิบาริเห็นก็รำคาญแต่ก็ทนๆกิน ต่อไป สักพักฮิบาริก็ยกซูชิให้ดีโน่ชั้นหนึ่ง ( มันมีสามชั้น ) " เอาไป พยายามกินให้ได้ล่ะ " ดีโน่ทำตาวิบวับ เหมือนเด็กๆ ได้ของเล่น แล้วรับซูชิมา ฮิบาริมองตามดีโน่แล้วส่ายหัวเบาๆ แต่แล้ว
ผลุบ!!
ซูชิหล่นจากตะเกียบดีโน่ พร้อมเสียงบ่นที่ฟังไม่รู้เรือง ฮิบาริไม่สนใจนั่งกินของตัวเองต่อ
ผลุบ!!ซูชิหล่นจากตะเกียบของดีโน่อีกครั้ง ฮิบาริชายตามองเล็กน้อย แล้วทำเป็นไม่สนใจกอนของตัวเองต่อไป
ผลุบ!! ซูชิหล่นจากตะเกียบของดีโน่อีกครั้ง ฮิบาริเห็นก็รู้สึกเสียดายแทนจริงๆ ของดีๆทั้งนั้น
" ดีโน่ " ดีโน่หันตามเสียงเรียก ฮิบาริก็เอาซูชิจากกล่องตัวเองยัดใส่ปากดีโน่" นั่งเงียบๆล่ะ ชั้นป้อน เห็นแล้วอนาถ " ดีโน่ได้ยินก็นั่งเคี้ยวเงียบ ๆ แล้วนั่งอมยิ้ม" ยิ้มอะไร " ฮิบาริเหลือบมองดีโน่" เปล่า ชั้นดีใจน่ะ "" ดีใจ ? เรื่องที่ชั้นป้อนนายเนี่ยนะ ? ประสาท "" ไม่ใช่เรื่องนี้ " ดีโน่พูดพลางมองคนตัวเล็กข้างๆ" ชั้นดีใจที่เห็นนายทำตัวแบบนี้ต่างหาก ชั้นเห็นนายมีแต่ลูกน้องเพื่อนสนิทสักคนยังไม่มี ชั้นเคว้งคว้างแทนนายจริงๆเลย นายไม่เหงารึไงไม่มีเพื่อนน่ะ " " ไม่จำป็นนี่ของแบบนั้น มีแต่มิตรภาพจอมปลอมที่สร้างขึ้นมาเพื่อทำให้มีชีวิตรอดในโรงเรียนได้ ของแบบนั้นชั้นไม่ต้องการ " ฮิบาริพูดแล้วกินซูชิต่ออย่างไม่สนใจ" นายเคยมีเพื่อนที่เป็นแบบนั้นรึไง " ดีโน่ถามกลับ" ไม่ " " แล้วนายรู้ได้ไงว่ามีแต่มิตรภาพจอมปลอม "" ..... " ฮิบาริเงียบไม่ตอบ ดีโน่เห็นท่าทางของคนข้างๆแล้วยิ้ม" ชั้นแค่เป็นห่วงนายน่ะ อย่าคิดมากเลย นายไม่เชื่อใจใครชั้นก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่... " ดีโน่เงียบไป" แต่อะไร " ฮิบาริเห็นคนตัวสูงข้างๆเงียบไปพักใหญ่ จึงถามขึ้นมา" เชื่อใจชั้นสักคนได้ไหม๊ " ดีโน่หลบตาไม่มองฮิบาริ " .... " ฮิบาริได้ยินก็เงียบไป ไม่ตอบ" ชั้นไว้ใจไม่ได้ขนาดนั้นเลยเหรอ " ดีโน่มองฮิบาริอย่างหงอยๆ" นายเป็นครูฝึกชั้น " ฮิบาริพูดออกมาเบาๆ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมรู้สึกแบบนี้เวลาพูดคำนี้ออกมา" อืม...หมายความว่านายเชื่อใจชั้นใช่มั๊ย " ฮิบาริพยักหน้าน้อยๆ ทำเอาดีโน่ยิ้มกริ่ม คว้าไหล่ฮิบาริมากอด แต่เขาก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร" พอแล้วล่ะ...แค่นายเชื่อใจชั้นคนเดียวก็เกินพอแล้ว " แล้วจู่ๆฮิบาริก็ลุกพรวดขึ้นมา " เคียวยะ? " ดีโน่งงกับท่าทีของฮิบาริ" ชั้นจะไปห้องทำงาน...นายกินต่อไปเองละกัน " ว่าแล้วฮิบาริก็เดินฉับๆๆๆ ลงจากดาดฟ้าไป ทิ้งให้ดีโน่นั่งเอ๋อ คนเดียว" เคียวย๋าาาาาา ใจร้ายยยย " ห้องรับแขกโรงเรียนนามิโมริ --ห้องกรรมการรักษษระเบียบ-- ฮิบารินั่งอยู่ที่โตะทำงาน คิดถึงเรื่องที่ผ่านมาซักครู่ แล้วหลับตาลง" ชั้นเห็นเขาเป็นแค่ครูฝึกจริงเหรอ " พึมพำกับตัวเองเบาๆ พร้อมกับประตูห้องเปิดออก การเปิดประตูที่ไม่เคาะก่อนมีอยู่คนเดียว" เป็นอะไรรึป่าวเคียวยะ รีบออกมาแบบนั้น ชั้นทำอะไรให้ไม่พอใจเหรอ " " เปล่า กินเสร็จแล้วเหรอ " ฮิบาริเหลือบมอง กล่องซูชิที่ดีโน่ถือมา" ยัง ยังไม่ได้กินเลย เป็นห่วงนายน่ะ เลยรีบตามนายลงมาก่อน " ดีโน่พูดแก้เก้อ ความจริงแล้วถ้ากินเองก็คงไม่ได้กินแน่เลยตามลงให้ให้ฮิบาริป้อนดีกว่า" ....มานี่สิ ชั้นจะสอนใช้ตะเกียบอีกที ครั้งสุดท้ายนะ "" นายป้อนไม่ได้เหรอ" ดีโน่อ้อน" ไม่ได้ ไม่งั้นนายก็ต้องให้คนอื่นป้อนตลอดชีวิตน่ะสิ "" นายห่วงชั้นเหรอ "
คำพูดคำเดียวทำให้ฮิบาริหยุดกึก เป็นห่วงเหรอ--ฮิบาริคิด--" ชั้นแค่ไม่อยากให้นายเป็นตัวถ่วงชาวบ้านเค้าตลอดชีวิตต่างหาก " ฮิบาริพูดตัดน้ำใจอย่างมาก" ชั้นล้อเล่นน่า...สอนก็สอนสิ " ดีโน่ยิ้มแห้งๆ ยื่นตะเกียบให้ ฮิบาริมองอย่างสัย ไม่โต้แย้งอะไรเหรอ--ฮิบาริคิด" อืม " แล้วฮิบาริก็ทำการสอนอีกรอบ คราวนี้ดีโน่ตั้งใจฟังที่สอนเต็มที่ จนเริ่มที่จะใช้ตะเกียบเป็นแล้ว" พอล่ะ ๆ ชั้นใช้เป็นล่ะ ขอบใจมากนะ " " อืม..."" ชั้นจะออกไปหาอะไรกินข้างนอกล่ะ " ฮิบาริทำหน้าครุ่นคิด" แล้วซูชินี่ล่ะ " ฮิบาริชี้ไปที่กล่องซูชิ" ไม่มีนายมานั่งกินด้วยกินไม่อร่อยหรอก " แล้วดีโน่ก็เปิดประตูเตรียมจะออกไป แต่หยุดเพราะว่ามีมือเล็กมาดึงเสื้อเขาไว้" อะไรเหรอ " ดีโน่ถามฮิบาริโดยไม่หันกลับไปมอง" นั่งกินที่นี่ก็ได้ ชั้นจะกินเป็นเพื่อน ของชอบนายไม่ใช่เหรอ " ดีโน่หันกลับมาหาฮิบาริที่ก้มหน้าพูด ดีโน่แอบเห็นฮิบาริหน้าแดงเล็กน้อย ก็ผุดยิ้มขึ้นมา นี่เป็นการเชื่อใจรึป่าวนะ --ดีโน่คิดในใจ แต่ฮิบารินั้นคิดมากกว่านั้นแน่นอน
" ตกลง " แล้วร่างสูงก็ดันร่างเล็กไปนั่งกินกันที่โซฟา แล้วทั้งสองก็นั่งกินอย่างเงียบๆโดยที่ดีโน่ นั่งยิ้มแป้น ส่วนฮิบาริหลบสายตาดีโน่ไม่พูดอะไร เพราะหากเขามองใบหน้านั้นแล้ว อาจจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่ทราบได้
...........................
To..Be..Con...

[ Fic ] You and Me... [ Dino x Hiba ] Ch 1

ตอนที่ 1 : ยินดีต้อนรับเข้าสู่การฝึกพิเศษของชั้น

--------------------------------------------

มุมหนึ่งของอิตาลี.......

" ศึกชิงแหวนเหรอ?...ได้สิ...ชั้นช่วยก็ได้...เมื่อไรล่ะ...ตกลง...แล้วเจอกัน " ชายหนุ่มร่างสูงผมทอง ใบหน้าคม วางหูโทรศัพท์จากอดีตอาจารย์ของเขา แล้วถอนหายใจเบาๆ
" งานนอกอีกแล้วสินะครับบอส " ชายค่อนข้างมีอายุ ใส่แว่นตา เอ่ยถามคนที่ได้ชื่อว่าบอสของเขา
" อื้อ..นี่โรมาริโอ้..ไปกับชั้นหน่อยนะ.." ชายผมทองกล่าวกับโรมาริโอ้
" ครับ " โรมาริโอ้รับคำอย่างว่าง่าย

ประเทศญี่ปุ่น....

" ดีจ้า..ดีโน่..มาถึงไวดีนี่ "เด็กทารกที่ได้ชื่อว่าเป็นอัลโกบาเรโน่ ผู้ที่ครองจุกนมสีเหลืองเอ่ยทักชายผมทองที่เพิ่งมาถึง
" ไง..รีบอร์น..เจ้าหนูคนไหนล่ะที่จะให้ชั้นฝึกพิเศษให้น่ะ " ดีโน่ทักเจ้าหนูตัวเล็กที่นั่งรออยู่ที่อาคารแห่งหนึ่ง รีบอร์นหยิบภาพ ของเด็กหนุ่มคนหนึ่งให้ดีโน่ดู เป็นเด็กผู้ชายท่าทางเอาเรื่อง ผมดำขลับ แต่ตัวค่อนข้างเล็ก แต่ภาพนี่เป็นภาพแอบถ่าย เมื่อดีโน่ดูเสร็จถึงกับยิ้มออกมา
" หน้าตาไม่เลว แต่แบบนี้จะไหวเหรอ ท่าทางบอบบาง แบบนี้ "
" หมอนี่ได้ชื่อว่าเก่งที่สุดในถิ่นนี้แล้วมั้ง นายเองรับมือให้ดีล่ะ ถึงแม้ว่าชั้นจะให้นายมาฝึกเจ้านี่ แต่ก็ไม่รับรองความปลอดภัยให้หรอกนะ "
รีบอร์นพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ก็ทำให้ดีโน่อึ้งไปเล็กน้อย --ตัวแค่นี้จะทำอะไรได้--ดีโน่คิด ซักพักก็มีเด็กผู้ชายผมสีน้ำตาล ตัวค่อนข้างเล็ก
วิ่งหน้าตื่นเข้ามา
" รีบอร์น!!!นี่มันเรื่องอะไรกันแหวนนี่...!!อ้าว ! คุณดีโน่ " เด็กผู้ชายที่เพิ่งเข้ามาเอ่ยทักดีโน่
" ไง สึนะ " ดีโน่เอ่ยทักกลับบ้าง
" รีบอร์น...แหวนนี่มันอะไร ทำไมมาอยู่ที่ชั้น " สึนะโวยวายใส่รีบอร์น
" ก็แหวนนี่เป็นของนาย ...อีกไม่นานจะมีศึกชิงแหวนนี่ขึ้น เก็บรักษาไว้ให้ดีล่ะ "รีบอร์นพูดอย่างไม่ทุกข์ร้อน
" หา!!!ศึกเหรอ ... "

สักพักก็มีเด็กผู้ชายผมสีเงินยาวประบ่า เดินมาพร้อมกับเด็กผู้ชายอีกคนตัวสูงชลูด ที่ถือไม้เบสบอลมาด้วย
" รุ่นที่ 10 คร๊าบบ!!! "
" ไง..สึนะ "
" โกคุเทระคุง !! ยามาโมโตะ!! "
" รุ่นที่ 10 ได้รับแหวนแล้วใช่ไหมครับ พวกเราก็ได้แล้ว " โกคุเทระยิ้มอย่างตื่นเต้น

ดีโน่ฟังทั้ง 4 คนคุยกันสักพักก็ขอตัวออกไปหาคนที่ตัวเองต้องฝึกให้บ้าง

โรงเรียนมัธยมต้น นามิโมริ เวลา 12.00 น
---ห้องรับแขก---
เด็กนักเรียนชายคนหนึ่ง ผมดำขลับ ในชุดนักเรียนสีดำมีตรากรรมการนักเรียนอยู่ที่แขนเสื้อด้านซ้าย นั่งที่โซฟา มองแหวนแปลกๆที่เจ้าตัวเล็กเอามาให้เมื่อคืน พร้อมนั่งคิดอะไรต่างๆนานา สักพักเสียงประตูห้องรับแขกก็เลื่อนออกพร้อมเด็กหนุ่มผมทอง
" สวัสดี นายคงได้รับแหวนจากรีบอร์นแล้วใช่มั๊ย? งั้นก็ได้เวลาไปฝึกแล้วล่ะ ฮิบาริ เคียวยะ " ดีโน่ทักทายเด็กหนุ่มที่ได้ชื่อว่าลูกศิษย์ของเขาขณะนี้
" ฝึก?...นายพูดตลกอะไร...แต่ถ้านายชนะชั้นล่ะก็ได้..." แล้วฮิบาริก็เอาทอนฟามาออกมาจากไหนก็ไม่รู้ พอดีกับที่ดีโน่เอาแส้ของเขาออกมาเหมือนกัน
" ได้ "

ดาดฟ้าโรงเรียนนามิโมริ........

ทั้งฮิบาริและดีโน่ตั้งท่าพร้อมรบ เผชิญหน้ากันอยู่
" จะเริ่มกันรึยัง "ฮิบาริลองเชิงถามดีโน่พร้อมทำตาขวาง--ไม่ถูกชะตากับหมอนี่เลยแฮะ--ฮิบาริคิด
" มาตั้งกฎก่อนดีกว่า ...ใครที่สามารถจับคู่ต่อสู้ได้ คนนั้นชนะไป " ดีโน่ตั้งกฎการต่อสู้ครั้งนี้
" ได้...จะเอายังไงได้..แต่ตอนนี้ชั้นอยากขยี้นายเต็มแก่ล่ะ..เข้ามาเลย " ฮิบาริตั้งท่าสู้อีกครั้ง โดยการเอาทอนฟาไว้ข้างหน้าทั้งสองข้าง
" นายนั่นล่ะเข้ามาก่อน ชั้นไม่อยากทำร้ายเด็กอย่างนายหรอกนะ " ดีโน่ยิ้มตอบกลับไป --ไม่เลวเลยเด็กคนนี้ชักถูกใจแล้วสิ--ดีโน่คิด
" งั้นชั้นก็จะไม่เกรงใจล่ะนะ " ว่าแล้วฮิบาริก็พุ่งตัวใช้ทอนฟาฟาดไปที่ดีโน่ แต่ดีโน่ใช้แส้ของเขารับได้ทันก่อนที่ทอนฟานั่นจะเสยที่คางของเขา
ทั้งคู่ผละตัวออกมา แล้วปะทะกันอย่างดุดัน แต่แล้ว มีบางอย่างผิดพลาดขึ้น ฮิบาริ ขาแพลงรึว่าหิวข้าวก็ไม่ทราบ กลับทรุดเอาดื้อๆ ตอนที่กำลังจะเข้าไปฟาดเจ้าหัวทอง ดีโน่ก็ตกใจเล็กน้อยแต่มีสติมากกว่า จึงฉวยโอกาสเหวี่ยงแส้ให้เป็นบ่วงมัดตัวฮิบาริไว้ ฮิบาริออกมาอาการตกใจตาโต แต่ก็ต้องยอมรับแต่โดยดีว่าเค้าน่ะแพ้เจ้าหัวทองตรงหน้าแล้ว ตอนนี้เขาโดนมัดนอนอยู่กับพื้น ดีโน่นั่งลงข้างๆ ฮิบาริเพื่อพักเหนื่อย แล้ว พูดกับเขาเบาๆ

" นายแพ้ชั้นแล้ว เคียวยะ ...ชั้นดีโน่...ได้รับคำสั่งจากรีบอร์นให้มาฝึกนาย ให้เก่งกว่าเดิม ...เพื่อเป็นผู้พิทักษ์ของสึนะ "
" .... " ฮิบาริไม่ตอบอะไร ได้แต่ทำตาเคียดแค้น เขาไม่ได้โกรธเคืองเรื่องไปเป็นผู้พิทักษ์ให้สึนะ แต่เขาโกรธตัวเองที่มาเสียท่าเจ้าคนพรรค์นี้...

" ยินดีต้องรับเข้าสู่การฝึกพิเศษของชั้นนะเจ้าหนู...ชั้นรับรองได้ว่านายได้อะไรมากกว่าการที่นายเก่งขึ้นแน่นอน " ดีโน่นอนลงข้างๆฮิบาริ
และหลับลงด้วยความเหนื่อยทิ้งฮิบาริให้โดนมัดไว้อย่างนั้น แต่เขาก็ไม่ได้โวยวายแต่อย่างใด ฮิบาริมองหน้า ดีโน่ที่หลับอยู่ใกล้ๆเขา
" ดีจริงๆ มีคนให้อัดทุกวัน " ฮิบาริยิ้มแสยะใส่ใบหน้าตอนนอนของดีโน่ เด็กหนุ่มมองใบหน้าของชายผมทองสักพัก ก็หน้าขึ้นสีแล้วผละออกมา
--เป็นบ้าอะไรของเรา--ฮิบาริคิด แล้วฮิบาริก็ผล็อยหลับลงไปตรงนั้นด้วยความเหนื่อยเหมือนกัน

-----------------------
6 โมงเย็น ณ .ดาดฟ้าโรงเรียนนามิโมริ

ฮิบาริ ลืมตาขึ้นมาก็เห็นชายผมทองนั่งอยู่ข้างหน้าเขา แล้สตอนนี้ก็ไม่มีแส้มมัดเขาแล้วด้วย
" อ้าว..ตื่นแล้วเหรอ เคียวยะ ขอโทษนะที่หลับไปโดยทิ้งให้นายโดนมัดอยู่ " ดีโน่ยิ้มออกมา แห้งๆ
" อืม..ช่างมันเหอะ...ชั้นจะกลับบ้านล่ะ " พูดจบฮิบาริก็ลุกขึ้นยืน แต่เพราะขาแพลงจริงๆนั่นล่ะ ทำให้เขาทรุดตัวลงมาอีก แต่ดีโน่จับเขาไว้ทัน
" นายขาแพลงนิ่ ไหวมั๊ย? ชั้นไปส่งนายที่บ้านนะ "
" ไม่ต้อง ชั้นเดินกลับเองได้ !! " ฮิบาริโมโหที่ดีโน่พูดเหมือนกับเขาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แบบนั้น แต่ดีโน่ก็ไม่ฟัง จับฮิบาริขึ้นหลังได้ก็ดิ่งไปบ้านฮิบาริทันที ฮิบาริทั้งทุบทั้งชกหัวคนที่อุ้มเขาลงมา ทั้งโมโหทั้งอาย ที่หัวหน้ากรมการรักษาระเบียบที่มีแต่คนกลัวอย่างเขาจะมาอยู่ในนสภาพนี้
" บ้านนายอยู่ไหน ? " ดีโน่ถามคนที่เขาแบกอยู่ข้างหลัง
" .... " ฮิบาริเงียบ ไม่ยอมตอบ
" ถ้านายไม่ตอบชั้นจะพาไปอพาร์ทเม้นของชั้นนะ " เท่านั้นล่ะ ฮิบาริก็บอกแผนที่บ้านตัวเองอย่างละเอียดเลยล่ะ ซักพักทังสองก็มาถึงบ้านของเจ้าตัวเล็กที่เขาแบกอยู่ เป็นบ้านสองชั้น ไม่หรูหรามากมายแต่น่าอยู่ เมื่อมาถึงบ้านฮิบาริก็ขอลงจากหลังดีโน่ เขาก็ยอมให้ลงโดยดี แต่เนื่องจากขาของเจ้าตัวเล็กข้างๆยังไม่หายดี ดีโน่จึงช่วยพยุงขึ้นห้องของฮิบาริที่อยู่ชั้นสอง แล้วเปิดห้องของเขาเข้าไป วางฮิบาริลงบนเตียงนอน แล้วนั่งลงที่พื้น
" พ่อแม่นายล่ะ " ดีโน่ถามขึ้น เพราะตั้งแต่ที่เข้ามาก็ไม่มีใครอยู่เลย
" ไม่อยู่ทั้งคู่นั่นล่ะ พ่อไปทำงานที่อื่น ส่วนแม่ก็ตามพ่อไป " ฮิบาริตอบเรียบๆ ดีโน่ได้ยินก็ยิ้มขึ้นมาทันที
" งั้นคืนนี้ชั้นค้างที่นี่ล่ะ " ว่าแล้วดีโน่ก็ขึ้นไปนอนบนเตียงเดียวกับฮิบาริ
" เฮ้ย!! ...ได้ไงบ้านตัวเองก็มี ไปนอนบ้านตัวเองสิ " ฮิบาริจะคว้าทอนฟาก็ดันไปวางไว้ที่ไหนไม่รู้
" ไม่ล่ะ..ชั้นแบกนายมาเหนื่อยนี่ ขอชั้นพักที่นี่ซักคืนเหอะ " แล้วดีโน่ก็ทำท่าหลับ ฮิบาริถึงกับเหงื่อตก
" งั้นนายก็สมควรที่จะไปอาบน้ำ เหม็ยนเหงื่อ!!!! "

พลั่ก!!!

ฮิบาริใช้เท่าข้างที่ไม่เจ็บถีบดีโน่เข้าเต็มรัก

" โอ๊ยๆๆ ...บอกกันดีๆก็ได้ ห้องน้ำอยู่ที่ไหน " ดีโน่ลงไปนอนกองอยู่กับพื้นข้างล่าง พร้อมเอามือลูบก้นกบที่กระแทกเข้าดังอี่ก
" โน่น..." ฮิบาริชี้ไปอีกทาง ของเตียง แล้วดีโน่ก็หอบสังขารเข้าห้องน้ำไป
" ผ้าเช็ดตัวของชั้นในห้องน้ำนั่นล่ะ ใช้ได้ " ดีโนหันมามองแว่บนึงแล้วหายลับเข้าห้องน้ำไป ฮิบาริ ล้มตัวนอนลงทันที แล้วคิดเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้
---ชั้นจะฝึกนายให้เก่งขึ้น และชั้นรับรองว่านายจะได้อะไรไปมากกว่าการที่นายเก่งขึ้นแน่นอน--- ชั้นจะเก่งขึ้นงั้นเหรอ...หมอนี่ท่าทางไม่มีพิษภัย คงไม่เป็นไรหรอก ก็ดี ชั้นเองก็จะได้เก่งขึ้น ฝึกก็ฝึก --- ฮิบารินอนคิดแล้วหลับไปทั้งๆอย่างนั้น

--ในห้องน้ำ--
---หึหึหึหึ---เสียงหัวเราะปริศนาดังขึ้นในใจของคนที่อยู่ในห้องน้ำ ตามด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มเจ้าเลห์ปรากฏอยู่

............ To Be Con....